
เสริมจมูก
การเสริมจมูกที่ดีจะต้องทำให้ใบหน้าโดยรวมสวยขึ้น และดูเป็นธรรมชาติ พื้นฐานจมูกเดิมของคนไข้แต่ละคนต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจวิเคราะห์โครงสร้างของจมูก และสัดส่วนต่างๆบนใบหน้า เพื่อที่จะได้ผลงานที่สวยและปลอดภัย

ตัดแต่งปีกจมูก
สัดส่วนของปีกจมูกที่สวยงาม ไม่ควรกว้างเกินเส้นที่ลากจากหัวตาออกไปมาก การตัดปีกจมูกมีหลายวิธี โดยต้องมีการตรวจประเมินว่าปีกจมูกกว้างหรือใหญ่ที่ส่วนใด การตัดควรตัดแต่พอดี จึงจะปลอดภัยและสวยงาม หากตัดมากไปรูจมูกจะดูคล้ายจมูกหมู หรือแคบจนนิ้วเข้ารูจมูกไม่ได้


การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
1. ควบคุมโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด และโรคความดันโลหิต
**ไม่ควรผ่าตัดในช่วงที่มีภาวะเจ็บป่วย หรือมีการติดเชื้อของผิวหนังบริเวณที่จะผ่าตัด
2. ยา รับประทานยารักษาโรคประจำตัวได้ตามปกติ ยกเว้น หากทานยากลุ่ม แอสไพริน ยาแก้ปวด (เช่น Ibuprofen Diclofenac) ฮอร์โมน วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรต่างๆ ควรงด 1 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด
**หากรับประทานยาที่ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ที่ให้ยาก่อนทุกครั้ง
3. การรับประทานอาหาร การผ่าตัดที่ใช้การฉีดยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องงดอาหารและน้ำ ทานได้ตามปกติ ในปริมาณที่พอเหมาะ
4. การดูแลตัวเองและอื่น ๆ งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการทำผ่าตัด ควรสระผมมาก่อน ไม่แต่งหน้าในวันที่ผ่าตัด
หมายเหตุ
** การนัดหมายวันผ่าตัด ควรนัดในช่วงเวลาที่ท่านสะดวกมาติดตามอาการ โดยจะมีการนัดติดตามในช่วง 1-2 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
การดูแลตนเองหลังผ่าตัด
-
ประคบเย็นทันทีอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลา 48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด โดยใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาและไม่เปียกน้ำ บริเวณที่ทำการผ่าตัด
-
นอนยกหัวสูงหรือนั่งหลับในช่วง 48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัดจะช่วยลดอาการบวมได้
-
ไม่ควรนอนตะแคง เป็นเวลา 2 สัปดาห์
-
ไม่ควรให้แผลผ่าตัดโดนน้ำในช่วงเวลา 7 วันหลังผ่าตัด
-
ควรใช้กระดาษซับมันซับใบหน้า หรือสําลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทั่วใบหน้าแล้วซับให้แห้ง ในช่วง 7 วันหลังผ่าตัด จากนั้นในวันที่ 8 เป็นต้นไป สามารถล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด และใช้สบู่ล้างบริเวณแผลผ่าตัดได้
-
ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดด้วยไม้พันสำลีจุ่มน้ำเกลือทุกวัน จากนั้นให้ป้ายยาลงบนแผลหลังจากทำความสะอาด เช้า-เย็น
-
หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งตรงดั้งจมูก การแกะเกาบริเวณแผล
-
หากมีอาการคันหรือเคืองตา สามารถรับประทานยาแก้แพ้ได้ และหลีกเลี่ยงการไอจามที่รุนแรงเพื่อป้องกันภาวะเลือดออกหลังผ่าตัด
-
รับประทานอาหารอ่อนๆ และควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ วิตามินอาหารเสริม อาหารทะเล และของหมักดอง ประมาณ 1 สัปดาห์
-
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์
การรับประทานยา
1. ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องจนหมด ไม่ควรซื้อยามารับประทานเองเพิ่ม ยกเว้น ยาแก้ปวดพาราเซตามอน
2. หากผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงจากยา กรุณาแจ้งแพทย์
การนัดตรวจติดตาม
1. ควรมาตรวจตามในวันที่แพทย์นัด (ประมาณ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด) เพื่อประเมินผลของการผ่าตัด และพิจารณาเรื่องการตัดไหม
2. หลังจากแผลปิดสนิทและตัดไหมแล้ว จำเป็นต้องดูแลแผลต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงแสงแดด และนวดรอยแผลจากหัวตาไปหางตาเบาๆ เพื่อให้แผลนิ่ม ทั้งนี้แผลจะค่อยๆดีขึ้นจนเข้าที่ในเวลา 3-6 เดือน
1. อาการบวมเกิดขึ้นได้ในช่วง 3-4 วันแรก จาก นั้นอาการบวมจึงจะค่อยๆยุบลง โดยเวลาที่ใช้ในการยุบบวมจะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล
2. แผลซึม อาจมีน้ำเหลืองหรือเลือดจางๆซึมออกจาก บริเวณแผลผ่าตัดได้ในช่วง 3-4 วันแรก หากมีอาการให้ ทำความสะอาดและปล่อยให้แผลแห้งตามธรรมชาติ โดยต้องระวังไม่ให้เช็ดแผลแรงจนเกินไป
3. เจ็บแผล ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดแผลในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกได้ หากรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
หากมีอาการอื่นๆ สามารถแจ้งอาการกับทางคลินิกได้ทันที
อาการที่เกิดขึ้นได้